การที่สหรัฐอเมริกาประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) สูงถึงร้อยละ 46 ต่อสินค้านำเข้าจากเวียดนาม โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 ได้สร้างความตกใจและความวิตกกังวลอย่างมากในหมู่นักเศรษฐศาสตร์และผู้นำภาคธุรกิจ ซึ่งต่างเตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการส่งออกและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามโดยรวม
นาย Michael Kokalari หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท VinaCapital เปิดเผยว่าการประกาศภาษีดังกล่าวเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในระดับอัตราภาษีที่สูงถึงร้อยละ 46 ซึ่งอาจทำให้เวียดนามไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 8 ได้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตลาดและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราภาษีจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่ VinaCapital ใช้เป็นฐานในการประเมินผลกระทบล่วงหน้า นาย Michael Kokalari ยังชี้ให้เห็นว่า อัตราภาษีในระดับดังกล่าวอาจย้อนกลับไปกระทบผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจส่งผลต่อการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้